Share

บทที่ 474 


Author: ลั่วหูโยว
ถ้าไม่พูดถึงเรื่องไลฟ์สด เสิ่นหยินอู้ก็เกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ

ตอนที่เตรียมกลับประเทศ การไลฟ์สดของเด็กน้อยทั้งสองคนก็ต้องหยุดไว้ก่อน

เนื่องจากพิจารณาถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เลยไม่ได้แจ้งเวลาการเริ่มไลฟ์สดใหม่ เสิ่นหยินอู้ในช่วงนี้ก็ยุ่งมาก เลยไม่ได้ไปสนใจเรื่องการไลฟ์สดเลย

ตอนนี้พอเด็กน้อยทั้งสองคนพูดถึง เธอเลยหยิบโทรศัพท์ออกมาดูความคิดเห็น

ไม่คิดว่าเวลาจะผ่านไปเกินครึ่งเดือนแล้ว วิดีโอที่เธอลงในติ๊กต่อกมีความคิดเห็นเพิ่มขึ้นหลายหมื่นข้อความ

ความคิดเห็นเหล่านี้ล้วนแต่ถามถึงวันที่จะเริ่มไลฟ์สดใหม่ บางความคิดเห็นที่บอกว่าคิดถึงเด็กน้อยทั้งสองคนได้รับไลค์สูงสุด

“อืม” เสิ่นหยินอู้คิดอยู่ซักพัก “จริงๆ ตามตารางการเรียนของพวกหนู จะไลฟ์สดก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้ แต่ต้องลดความถี่ลง เวลาส่วนใหญ่ยังคงต้องเข้าร่วมกิจกรรมกลางแจ้งให้มากขึ้น”

พอได้ยินแบบนั้น เหมิงเหมิงก็สะบัดหัวเล็กน้อยและพูดว่า “หม่ามี๊ งั้นหม่ามี๊ก็ถ่ายวิดีโอในช่วงที่เหมิงเหมิงกับพี่เข้าร่วมกิจกรรมกลางแจ้งก็ได้หนิคะ”

ข้อเสนอนี้ฟังดูดี เธอคิดว่าจะอยู่กับลูกๆ อยู่แล้ว การถ่ายวิดีโอเพิ่มเติมในช่วงเวลาที่อยู่ด้วย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 475

    รุ่งเช้า
หลังจากที่ฉินเย่ตื่นมาไม่นาน ก็ได้รับสายจากจี้ชิงเป่ย
“หลี่มู่ถิงโทรหาฉัน บอกว่าเมื่อคืนนายก็ไม่ยอมกินอะไรอีกแล้ว?”เมื่อคืนฉินเย่นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง อารมณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พอตื่นขึ้นมาก็นึกถึงคำพูดเย็นชาของเสิ่นหยินอู้หน้าของเขาก็เริ่มบูดบึ้งอีกครั้ง“มีอะไร?”จี้ชิงเป่ยถอนหายใจ “เราเป็นเพื่อนกัน ไม่มีเรื่องอะไรจะโทรมาแสดงความห่วงใยนายไม่ได้เลยเหรอ?”“ไม่ต้อง”
พูดจบ ฉินเย่ก็คิดจะวางสายทันที“เดี๋ยวก่อน”จี้ชิงเป่ยที่รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรก็รีบพูดขัดขึ้นทันที “ฉันมีเรื่องจะพูดกับนาย”ฉินเย่ยังคงเหลือความอดทนเล็กน้อยสำหรับเพื่อน “ว่ามา”“นายทำร้ายจิตใจฉูฉู่อีกแล้วเหรอ?”
พอได้ยินแบบนั้น แววตาของฉินเย่ก็ปรากฏแววเย้ยหยันขึ้นมา“ทำไม? เธอไปฟ้องนายแล้วเหรอ?”“ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเหยียนซี เหยียนซีสงสารเธอมาก ขอให้ฉันช่วยพูดกับนาย”
ฉินเย่ “……”“จี้ชิงเป่ย ถ้านายว่างแล้วไม่มีอะไรทำจริงๆ…...”“หยุดเลย หยุดเลย” จี้ชิงเป่ยรีบพูดแทรกเขา “ฉันไม่ได้ว่างงานหรอก นายไม่ต้องบอกให้ฉันทำอะไร ฉันมาเพื่อเตือนนาย ฉันอยากถามว่านายคิดยังไงกันแน่”พอมาถึงตรงนี้ จี้ชิงเป่ยก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 476

    จี้ชิงเป่ยถอนหายใจ “ไม่ใช้วิธีสะอาดตามกฎหมาย แล้วนายจะไม่รู้เรื่องของหล่อนหรือไง?”“เข้าใจแล้ว”หลังจากวางสาย ฉินเย่ก็เข้าสู้ภวังค์ความเงียบใช้วิธีอื่นงั้นเหรอ?จะว่าไปก็ลองดูได้-วันนี้ โม่ไป๋ขับรถส่งเสิ่นหยินอู้ไปทำงานด้วยตัวเองแน่นอนว่าระหว่างนั้นก็รวดส่งเด็กทั้งสองคนไปโรงเรียนด้วยระหว่างทางไปบริษัท เสิ่นหยินอู้เอาแต่เหม่อมองไปนอกหน้าต่างราวกับกำลังตกอยู่ในความคิดของตัวเองโม่ไป๋รู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่หลังจากที่เธอกลับมาถึงเมื่อวาน เธอก็เอาแต่เหม่อลอยเหมือนคนคิดมากอะไรอยู่ตลอด“เป็นอะไร?”แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น โม่ไป๋ก็ปิดเพลงในรถ แล้วถามขึ้นก่อนเป็นไปตามคาด เพราะตอนแรกเสิ่นหยินอู้ไม่ได้ยินเสียงเขาเลย จนกระทั่งโม่ไป๋พูดขึ้นอีกครั้ง เธอถึงจะรู้สึกตัว“หา? ปะ…เปล่า ฉันกำลังคิดเรื่องบริษัทน่ะ”โม่ไป๋ “บริษัท? บริษัทเป็นไงบ้าง? ช่วงนี้ฉันเองก็ยุ่ง เลยไม่ได้ถามเธอเลย มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?”“ไม่มีหรอก”เสิ่นหยินอู้ส่ายศีรษะ “เรื่องพวกนั้น ฉันจัดการเองได้”“มีเรื่องอะไร ก็อย่าเก็บไว้คนเดียว ช่วงนี้ยุ่งเรื่องอะไรอยู่เหรอ?”“ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรนะ แค่อยากหาบริษัทหนึ่งมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 477

    ได้ยินดังนั้น ดวงตาของโม่ไป๋พลันเป็นประกาย“จริงเหรอ?”เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองเต็มที่ ริมฝีปากบางค่อยๆ ยกสูงขึ้น “บริษัทอะไรถึงได้ตาถึงขนาดนี้ เจอของดีอย่างพวกเธอเข้าน่ะ”เสิ่นหยินอู้มองเขาด้วยสายตาซับซ้อนเมื่อเห็นสายตาของเธอ โม่ไป๋ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา“มีอะไรเหรอ?”“เขา เขาเป็นคนลงทุนเอง”แม้จะเป็นโม่ไป๋ที่ใจเย็นมาก แต่คราวนี้เขาก็ยังเหยียบเบรก หยุดรถอยู่ริมถนนเสิ่นหยินอู้ตกใจสะดุ้ง แล้วหันไปมองเขาโชคดีที่ไม่มีรถตามอยู่ข้างหลัง ไม่อย่างนั้นการที่เขาเบรกแบบนั้น คงถูกชนท้ายต่อเป็นทอดๆ แล้วหลังจากที่จอดรถ โม่ไป๋ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ อยู่ตรงนั้น แล้วคืนสู่สภาวะใจเย็นอย่างรวดเร็ว“เหรอ?”เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าการแสดงออกของเขาผิดปกติ แต่ก็พยักหน้าหงึกๆ“อืม นายเป็นยังไงบ้าง? ให้ฉัน…ขับรถแทนไหม?”“หยินอู้ ไม่ต้อง” โม่ไป๋ขับรถ แล้วอธิบายเสียงเบาว่า “เมื่อกี้ฉันตอบสนองแรงไปหน่อย แค่ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้น่ะ ตกใจแย่เลยใช่ไหม?”“ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ว่าครั้งหน้าถ้านายเจอเรื่องแบบนี้อีก อย่าเบรกกะทันหันแบบนี้อีก โชคดีที่ไม่มีรถตามหลังเรามา ไม่อย่างงั้นวันนี้ต้องถูกชนท้ายเป็

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 478

    อู๋อี้ไห่ลุกขึ้นพยักหน้าให้กับเธอ “บอสครับ คนนี้คือผู้ช่วยหลี่ เป็นตัวแทนจากฉินซื่อกรุ๊ปครับ”เมื่อเห็นเสิ่นหยินอู้ หลี่มู่ถิงก็ลุกขึ้นตาม แล้วมองเธอด้วยสายตาตะลึงงันก่อนที่จะมา เขาสงสัยว่าทำไมจู่ๆ ประธานฉินถึงได้ทำเรื่องที่ทำคนสับสนแบบนี้ได้ หลี่มู่ถิงมึนงงมาก ถึงขนาดโทรไปถามพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของตน แต่พี่ชายลูกพี่ลูกน้องกลับบอกให้เขาไม่ต้องถามมาก แค่ทำตามก็พอ เพราะยังไงสุดท้ายก็จะมีคำตอบให้เองซึ่งเป็นไปตามคาด เพราะคำตอบเผยออกมาตรงนี้แล้วความสงสัยทุกอย่างของหลี่มู่ถิง ได้รับคำตอบอย่างชัดเจนหลังจากได้เห็นหน้าของเสิ่นหยินอู้เขาก็ว่า อยู่ดีไม่ว่าดี ทำไมประธานฉินถึงได้คิดจะลงทุนให้กับบริษัทเล็กๆ นี้ได้? ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้นี่เองเพราะมีคนมาลงทุน อู๋อี้ไห่จึงอารมณ์ดีมากอย่างเห็นได้ชัด เขายิ้มแล้วเดินเข้าไปทักทายเสิ่นหยินอู้“บอสครับ ผม…”เขากำลังจะปริปากพูด ก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ใส่แว่นกรอบสีทอง โดยรวมแล้วดูอบอุ่นราวกับหยกคนหนึ่งเดินตามหลังเสิ่นหยินอู้เข้ามาจากนั้น คำพูดทุกอย่างที่กำลังจะพูดออกไปของอู๋อี้ไห่ก็หยุดชะงักลงถึงแม้ฝ่ายชายจะดูอบอุ่น แต่ออร่าของเขากลับแร

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 479

    เสิ่นหยินอู้ “…”ดีมาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อนเพราะก่อนหน้านี้อู๋อี้ไห่ก็บอกให้เธอไปขอเงินลงทุนกับฉินซื่อกรุ๊ปตลอดอีกอย่างการที่เขาทำแบบนี้ ก็ถือเป็นการคิดเพื่อบริษัท สำหรับบริษัทแล้ว การมีผู้จัดการแบบนี้อยู่ถือเป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่งเธอไม่ได้โกรธ เพียงแค่พยักหน้า แล้วหันหลังเดินลงตึกไปทุกกระบวนการนี้ ดูเหมือนโม่ไป๋จะถูกเธอละเลยไปอย่างไรอย่างนั้นรอให้เธอลงไปชั้นล่างเตรียมตัวจะไปเรียกรถ เธอก็ถูกโม่ไป๋เรียกเอาไว้“เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”ได้ยินดังนั้น ฝีเท้าของเสิ่นหยินอู้ก็ชะงักลง เมื่อเห็นโม่ไป๋ถือกุญแจรถไว้ในมือแล้วมองตัวเองอยู่ตลอดเวลาแบบนั้น เธอถึงจะตระหนักบางอย่างขึ้นได้“ขอโทษนะ เมื่อกี้ฉันมัวแต่ยุ่งน่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะ…”เธอเพียงแค่อยากบอกว่า เธอไม่ได้ตั้งใจจะละเลยโม่ไป๋ แต่เมื่อคำพูดมาถึงปลายลิ้น เธอก็คิดขึ้นได้ว่าถ้าพูดออกไป คงจะยิ่งทำร้ายจิตใจของเขาสินะ?“จะไปหาเขาเหรอ? เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”เสิ่นหยินอู้เรียกเขาไว้โดยสัญชาตญาณ“ฉันไปคนเดียวก็พอ”ได้ยินดังนั้น การกระทำในมือของโม่ไป๋พลันชะงัก หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หันหน้าไปมองเธอเงียบๆเผช

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 480

    ไม่รู้?เสิ่นหยินอู้แทบจะหลุดขำออกมาเพราะคำตอบของเขาวันก่อนเขายังบอกว่าถ้าเขาไม่พยักหน้า บริษัทเจ้าอื่นจะไม่มีทางผิดใจกับเขา และไม่ลงทุนให้บริษัทเธอแน่นอนแต่ตอนนี้เขากลับมาลงทุนให้บริษัทของตัวเอง แล้วมาบอกว่าไม่รู้เนี่ยนะ?เสิ่นหยินอู้หัวเราะแห้ง แล้วพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อไม่รู้ ถ้างั้นก็อย่าทำนอกเรื่อง”ได้ยินดังนั้น ฉินเย่ก็ขมวดคิ้ว “ทำแล้วจะทำไม?”“ฉันจะลงทุนบริษัทเธอ แล้วเธอจะทำอะไรฉันได้?”เสิ่นหยินอู้มองดูริมฝีปากสีซีดและหน้าผากที่ชุ่มเหงื่อของเขา แล้วพูดขึ้นช้าๆ ว่า “ก็ไม่ทำอะไรหรอก ฉันเองก็ไม่คิดอะไรอยู่แล้ว นายไม่กลัวขาดทุนก็พอ”กล่าวจบ เสิ่นหยินอู้ก็หันหลังกำลังจะเดินกลับไปแต่ฉินเย่กลับมองเธอเงียบๆ ริมฝีปากบางยังไงเม้มแน่นราวกับไม่คิดจะสนทนาอะไรกับเธอต่อเธอหันหลังเดินไปสองก้าว ก็นึกบางอย่างขึ้นได้ แล้วหันกลับไปมองฉินเย่“คุณย่าล่ะ?”ฉินเย่ที่เดิมก้มหน้าลงหลังจากที่เธอเดินจากไปแล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แล้วกล่าวยิ้มเบาๆ ว่า “ทำไม เธออยากเจอท่านเหรอ?”“ใช่” เสิ่นหยินอู้พยักหน้า “อยากเจอท่านสักหน่อยน่ะ”หลังจากที่เธอพูดคำพูดเหล่านั้นออกไปเมื่อวาน เธอก็รู้สึกเสียใจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 481

    หนึ่งชั่วโมงต่อมาคุณหมอยื่นใบแจ้งผลฉบับหนึ่งให้กับเสิ่นหยินอู้“เขาเป็นโรคกระเพาะขั้นรุนแรง ถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เขาเป็นลมจะมาจากโรคกระเพาะ แต่สาเหตุที่สารอาหารไม่เพียงพอ เครียดมากเกินไปก็เป็นผลด้วย”เสิ่นหยินอู้รับใบแจ้งผลมาจากหมอไม่อยากเชื่อเลยว่าคำว่าสารอาหารไม่เพียงพอ และเครียดมากเกินไปพรรค์นี้จะใช้กับตัวฉินเย่เพราะในความทรงจำของเธอ ฉินเย่เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่างมาโดยตลอดอีกอย่าง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วยเลยด้วยเสิ่นหยินอู้มองไปที่ห้องผู้ป่วย แล้วถามคุณหมอว่า “แล้วเขาต้องทำยังไงต่อคะ? ต้องแอดมิดหรือว่า?”“สถานการณ์ของคนไข้ตอนนี้ หมอแนะนำให้แอดมิดดูอาการสักพักหนึ่งก่อน ไม่อย่างนั้นขืนปล่อยไว้นาน อาการป่วยจะยิ่งร้ายแรงขึ้น”“ถ้างั้นโรคกระเพาะของเขาเป็นแบบนี้ได้ยังไงเหรอคะ?”“คนคนนี้ คนไข้คนนี้ทานอาหารไม่ตรงเวลา ดื่มเหล้า ก็อาจทำร้ายกระเพาะด้วยก็ได้ คืออย่างนี้ แฟนของคุณดื่มเหล้าไหม?”คำว่าแฟน ทำให้เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้วมุ่นอยากจะอธิบาย แต่คิดไปคิดมาก็ไม่มีประโยชน์ เธอจึงพยักหน้า“ค่ะ เขาดื่มหนักมาก”ถึงแม้เธอจะไม่เห็นเองกับตาแต่ฟังจากที่เฉียวลี่ซือพูดว่าหล่อนเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 482

    เพียงแต่ เขาทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?ตอนนี้ เสิ่นหยินอู้เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนอยู่ที่โรงแรม ฉินเย่ถึงได้ไม่อยากสาธยายกับตนขนาดนั้นตอนนั้นเขาคงฝืนทนถึงที่สุดแล้วสินะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้พลันถอนหายใจ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาอู๋อี้ไห่อู๋อี้ไห่รับสายเธอ แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า “บอสครับ ทำไมคุณยังไม่กลับมาอีกล่ะครับ? พวกคุณ…ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณใช่ไหมครับ?”“ไม่มี แต่ว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล…”“อะไรนะ?” อู๋อี้ไห่ตกใจ “ทำไมถึงอยู่ที่โรงพยาบาลได้ล่ะครับ? บอสครับ ถึงคุณกับประธานฉินจะเคยมีความสัมพันธ์ด้วยกันมาก่อน แต่ก็ไม่ควรมีเรื่องใหญ่ขนาดนี้สิครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับบอส?”“…”เมื่ออีกฝ่ายพูดจบ เสิ่นหยินอู้ถึงได้พูดขึ้นอย่างหมดหนทางว่า “นายช่วยฟังฉันพูดให้จบก่อนได้ไหม?”“ได้ครับๆ บอสพูดมาได้เลยครับ”เมื่อได้ยินว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล อู๋อี้ไห่ก็เป็นห่วงมาก กลัวว่าถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ จะทำให้เสียนักลงทุนไป ถึงตอนนั้นบริษัทจะยิ่งแย่กว่าช่วงที่ยังไม่มีคนลงทุนเสียอีก“เราไม่ได้มีเรื่องอะไรกันหรอก แต่ว่าฉินเย่เป็นลมน่ะ ฉันก็เลยพาเขามาโรงพยาบ

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status